InfoQuest – ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.88% แตะที่ระดับ 101.9642 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 141.9480 เยนในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) จาก 143.1550 เยนในวันพุธ (13 ธ.ค.), ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8662 ฟรังก์สวิส จาก 0.8694 ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.3409 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3499 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ10.2349 โครนาสวีเดน จาก 10.2928 โครนาสวีเดน
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0991 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี จากระดับ 1.0886 ดอลลาร์ในวันพุธ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2755 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2621 ดอลลาร์
นักลงทุนและเทรดเดอร์ยังคงปรับตัวรับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบหลายเดือน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีร่วงลงต่ำถึง 3.91%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.3% ในเดือนพ.ย. เนื่องจากฤดูกาลชอปปิงวันหยุดเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. 2567
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) แต่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest