InfoQuest – ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (3 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล ขณะที่ไม่แน่ใจกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 6 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ระดับ 102.43 หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในช่วงเช้าที่ระดับ 102.61
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.9% สู่ระดับ 143.31 เยน ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลง 0.2% สู่ระดับ 1.0924 ดอลลาร์ ส่วนปอนด์แข็งค่า 0.4% สู่ระดับ 1.2666 ดอลลาร์
นักลงทุนเข้าซื้อคืนดอลลาร์หลังจากร่วงลงราว 2% ในเดือนธ.ค. ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดญี่ปุ่นยังคงปิดทำการในวันอังคารเนื่องในวันหยุด
นอกจากนี้ ดอลลาร์ขานรับถ้อยแถลงของนายโทมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ ซึ่งส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยนายบาร์กินแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง
อย่างไรก็ดี นายบาร์กินกล่าวว่า เฟดยังคงมีทางเลือกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีความคืบหน้าในการชะลอเงินเฟ้อ และนายบาร์กินระบุว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่ว่าภารกิจของเฟดในการสกัดเงินเฟ้ออาจจะยังไม่สิ้นสุดลง
“อัตราดอกเบี้ยระยะยาวได้ปรับตัวลงในระยะนี้ และจะกระตุ้นอุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่สูงกว่าเป้าหมาย สิ่งนี้จึงทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปยังคงเป็นทางเลือกของเฟด” นายบาร์กินกล่าว
นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 163,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนพ.ย.
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest