ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.57 ระหว่างวันผันผวน ก่อนกลับมาทรงตัวจากช่วงเช้า ตลาดรอปัจจัยใหม่

InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 35.57 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าอยู่ที่ระดับ 35.58 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.44 – 35.63 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาค เคลื่อนไหวแบบผสม เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ คืนนี้ตลาดรอดูตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐ “บาทกลับมาปิดตลาดใกล้เคียงกับเปิดตลาดช่วงเช้า ระหว่างวันผันผวนมาก โดยช่วงเช้าทยอยปรับตัวอ่อนค่า ก่อนที่จะกลับมา แข็งค่าช่วงบ่ายตามแรงเทขายดอลลาร์เพื่อทำกำไร” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.45 – 35.65 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.72 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 148.21 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0891 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0882 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,377.93 จุด ลดลง 2.72 จุด, -0.20% มูลค่าซื้อขาย 50,984.88 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,536.72 ล้านบาท – นายกรัฐมนตรีและรมว. กล่าวถึงผลการหารือในระหว่างการประชุม World Economic Forum (WEF) ยืนยันว่า ประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับทุกมิติ ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ การลงทุนข้ามประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่ง การเดินทางมาครั้งนี้เชื่อว่าเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล – Krungthai COMPASS ประเมินอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2567 ยังเป็นปีของการฟื้นตัว โดยยอดการผลิต รถยนต์ของไทยในปีนี้มีโอกาสขยายตัว 4.8% ไปแตะที่ระดับ 1.97 ล้านคัน ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 2562 – นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จีนอาจต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มเติมจากสหรัฐและเนเธอร์ แลนด์เพื่อควบคุมเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของจีน – ซีอีโอของเมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก เปิดเผยเมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) ว่า การ หยุดชะงักของการขนส่งทั่วโลกอันเป็นผลจากการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงอาจคงอยู่ไปอีกอย่างน้อย 2-3 เดือน – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของธนาคารเจพีมอร์แกน เชสเปิดเผยว่า มีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐใน ช่วง 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากความเสี่ยงทั้งในด้านการเงินและภูมิรัฐศาสตร์

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest