Skip to content

Interstellar Group

ในฐานะผลิตภัณฑ์การซื้อขายทางการเงินที่ซับซ้อน สัญญาส่วนต่าง Contracts for Difference (CFDs) มีความเสี่ยงสูงอย่างมากเนื่องจากคุณสมบัติของเลเวอเรจ บัญชีลูกค้าของนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่มักบันทึกการสูญเสียเงินลงทุนในสัญญาส่วนต่างอย่างรวดเร็ว คุณควรพิจารณาว่า คุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การดำเนินงานของสัญญาส่วนต่าง และสามารถรับความเสี่ยงสูงของการสูญเสียเงินลงทุนได้หรือไม่    

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาประชุม ECB,BOJ

ISG
ประกาศ

เราขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามประกาศทางการตลาดของเรา

.right_news

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

ตลาด
ข่าว

ข้อมูลทางการเงินทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงและข่าวตลาดโลก

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

การสนับสนุน &
ความรับผิดชอบต่อสังคม

InterStellar Group มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทชั้นนำ และมีพลังในการสร้างผลกระทบที่ดีต่อโลก
นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นที่จะตอบแทนสังคม โดยตระหนักถึงคุณค่าของทุกคนเป็นส่วนสำคัญของชุมชนระดับโลกของเรา

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

การสัมนาสดเกี่ยวกับฟอเร็กซ์

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

23

2024-01

Date Icon
2024-01-23
การคาดการณ์สภาวะตลาด
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาประชุม ECB,BOJ

InfoQuest – ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (22 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรอดูข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ระดับ 103.331 หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.8% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ (25 ม.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของ BOJ ในวันนี้เช่นกัน

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BOJ จะคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในการประชุมวันนี้ โดยคาดว่า BOJ ต้องการประเมินความแข็งแกร่งของการปรับขึ้นค่าจ้างและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่ภาคกลางของญี่ปุ่นเมื่อช่วงปีใหม่

นักลงทุนหันมาจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ เนื่องจากจะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจากเจ้าหน้าที่เฟดในขณะนี้ โดยเฟดเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30-31 ม.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 4/2566 ของสหรัฐจะขยายตัว 2.0% หลังจากมีการขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ

นอกจากนี้ คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนธ.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี

ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ล่าสุด
ข่าว