ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.65 จับตามติกนง.-หั่น GDP ให้กรอบพรุ่งนี้ 35.50-35.80

InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.65 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.76 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.60 – 35.80 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงเย็น เงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากเช้า ซึ่งเป็นไปตามสกุลเงินภูมิภาคที่ปรับตัวแข็งค่าสอดคล้องกับเงินหยวนของจีน เนื่องจากตลาดคาดการณ์จีนจะออกมาตรการพยุงตลาดหุ้น สำหรับปัจจัยสำคัญพรุ่งนี้ ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง). ซึ่งตลาดคาดว่ารอบนี้ กนง.ยังคง ดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่ต้องรอดูว่ามติจะเอกฉันท์หรือไม่ รวมทั้งจับตาการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยด้วย “ตลาดคาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่จะดูว่ามติเอกฉันท์หรือไม่ รวมทั้งดูแถลงการณ์ว่า กนง.มีความกังวลต่อการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด และจะมีการปรับลด GDP รวมทั้งเงินเฟ้อลงหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ธปท.มองว่า GDP ปี 67 ถ้า รวมผลจากมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต จะอยู่ที่ 3.8% แต่ถ้าไม่รวม จะอยู่ที่ 3.2%” นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้ เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50 – 35.80 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.64 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.54 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0732 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0743 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,396.96 จุด เพิ่มขึ้น 13.03 จุด (+0.94%) มูลค่าซื้อขาย 50,709.59 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,703.66 ล้านบาท – นายกรัฐมนตรี นัดหมายประชุมคณะกรรมนโยบายโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในต้นสัปดาห์หน้า ด้านจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยันไม่ปรับลดวงเงินที่ใช้ในโครงการ และยังไม่ถึงขั้นต้องออกเป็น พ.ร.ก. ยังมั่นใจ ดิจิทัลวอลเล็ต ได้ ใช้ทันภายในปี 67 แน่ – ครม.ไฟเขียว ขยายเวลายกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการโอนขายคริปโทเคอร์เรนซี ที่ทำผ่านศูนย์ซื้อขายสิน ทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) และขยายการยกเว้น VAT ให้รวมถึงนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer) ด้วย รวมทั้งยกเว้น VAT สำหรับการโอนขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) ที่ได้กระทำผ่านศูนย์ซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับอนุญาตจาก รมว.คลัง ที่ได้ทำตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67 เป็นต้น ไป – สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 2566 มีโครงการขอรับการส่ง เสริม 2,307 โครงการ เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน มูลค่าเงินลงทุน 848,318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี – สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผล สำรวจในเดือนมกราคม 2567 (สำรวจระหว่างวันที่ 20–31 มกราคม 2567) พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 77.55 ปรับลดลง 43.4% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” – รัฐบาลจีน กำลังใช้มาตรการควบคุมการซื้อขายหุ้นกับนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ รวมทั้งบริษัทในเครือที่อยู่ในต่าง ประเทศ ในขณะที่ทางการจีนยังคงเดินหน้าสกัดการร่วงลงของตลาดหุ้น – ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.35% และได้ปรับลดการณ์เงินเฟ้อ และการ เติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังส่งสัญญาณว่าอุปสงค์ยังอยู่ในระดับสูงกว่าอุปทาน ซึ่งบ่งชี้ว่า RBA จะยังไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย – กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น (MIC) เปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่น ลดลง 2.5% ใน เดือนธ.ค. 2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน – ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หนี้ครัวเรือนไตรมาส 4/2566, ยอดนำเข้า-ส่ง ออก ดุลการค้า ธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest